
ห้อง Generator คืออะไร? คู่มือออกแบบ ขนาด และมาตรฐานล่าสุด
การออกแบบ generator room ที่ถูกต้องตามมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความต่อเนื่องของระบบไฟฟ้า เช่น โรงงาน โรงพยาบาล ศูนย์ข้อมูล และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ห้อง generator ที่ออกแบบไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และอายุการใช้งานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า การเข้าใจมาตรฐานการออกแบบ ระบบระบายอากาศ และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยจะช่วยให้การลงทุนคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
Generator Room คืออะไร และทำไมถึงจำเป็น
ห้อง generator คือพื้นที่เฉพาะที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน NFPA 110 และ NEC (National Electrical Code) เพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบถาวร พร้อมระบบสนับสนุนต่างๆ เช่น ระบบระบายอากาศ ระบบเชื้อเพลิง และระบบควบคุม ห้องดังกล่าวต้องมีขนาดที่เหมาะสม โครงสร้างที่แข็งแรง ระบบระบายอากาศที่เพียงพอ และระบบป้องกันอัคคีภัย พื้นที่นี้จะแยกออกจากส่วนอื่นของอาคารเพื่อป้องกันเสียงรบกวนและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
เหตุผลที่ต้องมีห้องแยก (ควบคุมเสียง, ระบายอากาศ, ความปลอดภัย)
การสร้าง พื้นที่เครื่องปั่นไฟ แยกต่างหากมีความจำเป็นหลายประการ ได้แก่ การควบคุมเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ดีเซลที่มีเสียงสูงถึง 90-110 เดซิเบล การจัดระบบระบายอากาศที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความร้อนสะสมและควันไอเสีย การจัดเก็บเชื้อเพลิงอย่างปลอดภัยตามกฎหมาย และการอำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไฟในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
มาตรฐานการออกแบบและขนาดของ Generator Room
การออกแบบ generator room ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากลเพื่อให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย มาตรฐานเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ขนาดพื้นที่ โครงสร้างอาคาร ระบบระบายอากาศ ไปจนถึงระบบป้องกันอัคคีภัย
ระยะทาง Padding & Aisle (3–4 ft หรือ 1–1.2 m รอบเครื่อง)
มาตรฐาน NEC กำหนดให้มีระยะห่างรอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอย่างน้อย 3-4 ฟุต หรือประมาณ 1-1.2 เมตร เพื่อให้สามารถเข้าถึงเครื่องสำหรับการบำรุงรักษาและซ่อมแซมได้สะดวก ระยะทาง Aisle clearance นี้ยังช่วยในการระบายความร้อนและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน สำหรับเครื่องขนาดใหญ่กว่า 500 kVA แนะนำให้เพิ่มระยะห่างเป็น 1.5-2 เมตร เพื่อความสะดวกในการใช้อุปกรณ์ยกหนัก
ผนังกันไฟ & ฝ้าเพดาน (ทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม.)
โครงสร้างของ ห้องเครื่องยนต์ปั่นไฟ ต้องมีคุณสมบัติทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ตามมาตรฐาน NFPA 110 ผนังและฝ้าเพดานต้องสร้างด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เช่น คอนกรีต อิฐ หรือเหล็กที่ผ่านการป้องกันไฟ การออกแบบโครงสร้างต้องรองรับน้ำหนักของเครื่องและแรงสั่นสะเทือนจากการทำงาน พื้นต้องเป็นคอนกรีตเรียบที่มีความหนาเพียงพอและติดตั้ง housekeeping pad สำหรับวางเครื่อง
ระบายอากาศ & มาตรฐาน NFPA 110 / NEC (Airflow, Exhaust, Recirculation)
ระบบระบายอากาศเป็นส่วนสำคัญของ generator room ที่ต้องออกแบบให้มีการไหลเวียนของอากาศที่เพียงพอ โดยต้องมี intake air สำหรับการเผาไหม้ combustion air สำหรับระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ และ exhaust air สำหรับขับควันไอเสียออกจากห้อง อัตราการไหลของอากาศต้องคำนวณตามกำลังของเครื่องและความร้อนที่เกิดขึ้น ระบบต้องป้องกัน recirculation ของอากาศร้อนและควันไอเสีย
เงื่อนไขการติดตั้ง (ประตู 7×8 ft, พื้นรองรับโครง, พื้นเรียบปูนฉาบ)
ข้อกำหนดการติดตั้งสำหรับ ห้อง generator ประกอบด้วยการมีประตูขนาดใหญ่อย่างน้อย 7×8 ฟุต เพื่อให้สามารถขนเครื่องเข้าออกได้สะดวก พื้นต้องเป็นคอนกรีตเรียบปูนฉาบที่สามารถรองรับน้ำหนักของเครื่องและแรงสั่นสะเทือน ต้องมีระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม พร้อมทั้งจัดเตรียมจุดต่อท่อเชื้อเพลิง ระบบไฟฟ้า และระบบควบคุมที่เหมาะสม
ตัวอย่างดีไซน์ห้องจาก GLI – พร้อมภาพ & สเปก
GLI (Grandline Innovation) มีประสบการณ์ในการออกแบบและติดตั้ง generator room สำหรับโครงการต่างๆ ทั้งแบบภายในอาคารและแบบตู้คอนเทนเนอร์ภายนอก ตัวอย่างดีไซน์เหล่านี้ผ่านการใช้งานจริงและได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล
GLI-GR500 (ห้องภายในอาคาร – 500 kVA)
Project ห้อง generator แบบภายในอาคารสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 500 kVA มีขนาดประตูสูง 2.5 เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อให้สามารถขนเครื่องเข้าได้สะดวก มีระยะ padding 1.2 เมตรรอบเครื่องตามมาตรฐาน NEC ระบบดูดอากาศและระบายอากาศออกแบบให้มีอัตราการไหลเวียนที่เหมาะสม พร้อมระบบดับเสียงเพื่อลดเสียงรบกวน โครงสร้างเหล็กแกลเวไนซ์รองรับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือน พื้นคอนกรีตติดตั้ง housekeeping pad สำหรับฐานเครื่อง
GLI-GR Container 1000 (ตู้ ISO 20 ft – 1000 kVA)
สำหรับโครงการที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ในอาคาร GLI เสนอโซลูชัน ห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แบบตู้คอนเทนเนอร์ ISO 20 ฟุต สำหรับเครื่อง 1000 kVA ติดตั้งภายนอกอาคารโดยไม่กินพื้นที่ภายใน มีระบบ ATS ในตู้เดียวกัน ventilation port ที่ออกแบบตามมาตรฐาน generator room ระบบกันเสียงและป้องกันสภาพอากาศ พร้อมระบบ remote monitoring สามารถควบคุมและตรวจสอบการทำงานจากระยะไกล
Glossary – คำศัพท์สำคัญเกี่ยวกับ Generator Room
คำศัพท์ | ความหมาย |
Aisle clearance | ระยะทางเว้นว่างรอบเครื่องสำหรับการเข้าถึงและบำรุงรักษา |
Fire rating wall | ผนังที่มีคุณสมบัติทนไฟตามมาตรฐาน เช่น 2 ชั่วโมง |
Ventilation airflow | การไหลเวียนของอากาศในห้องเพื่อระบายความร้อนและควัน |
Recirculation | การไหลวนของอากาศร้อนที่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น |
Housekeeping pad | แท่นคอนกรีตสำหรับวางฐานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า |
ISO container port | ช่องเปิดมาตรฐานในตู้คอนเทนเนอร์สำหรับระบายอากาศ |
Padding | ระยะห่างขั้นต่ำรอบเครื่องตามมาตรฐาน NEC |
Exhaust flue | ท่อระบายควันไอเสียออกจากห้องเครื่อง |
NFPA 110 | มาตรฐานระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินและสแตนด์บาย |
NEC spacing | ข้อกำหนดระยะห่างตาม National Electrical Code |
คำถามที่พบบ่อย
Q: ขนาดห้อง generator ควรใช้เท่าไร?
A: ขนาด generator room ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องบวกระยะ padding 1-1.2 เมตรรอบเครื่อง สำหรับเครื่อง 500 kVA ต้องการพื้นที่ประมาณ 4×6 เมตร รวมพื้นที่สำหรับอุปกรณ์เสริม
Q: เครื่อง generator ตั้งในห้อง ต้องระบายอากาศแบบไหน?
A: ต้องมีระบบ intake air, combustion air และ exhaust air ที่เพียงพอ โดยคำนวณจากกำลังเครื่องและความร้อนที่เกิดขึ้น ป้องกัน recirculation ของอากาศร้อน
Q: ห้อง generator ต้องทนไฟกี่ชั่วโมง?
A: ตามมาตรฐาน NFPA 110 ผนังและฝ้าเพดานของ ห้อง generator ต้องทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง โดยใช้วัสดุไม่ติดไฟ เช่น คอนกรีต อิฐ หรือเหล็กป้องกันไฟ
Q: ควรมีพื้นที่เท่าไรสำหรับบำรุงรักษาเครื่อง?
A: ต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 1-1.2 เมตรรอบเครื่อง สำหรับเครื่องขนาดใหญ่แนะนำ 1.5-2 เมตร เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์ยกหนักและเครื่องมือได้สะดวก
Q: ควรติดตั้งประตูแบบกี่ฟุตถึงพอ?
A: ประตูควรมีขนาดอย่างน้อย 7×8 ฟุต หรือ 2×2.5 เมตร เพื่อให้สามารถขนเครื่องและอุปกรณ์เข้าออกได้สะดวก สำหรับเครื่องขนาดใหญ่อาจต้องการประตูที่ใหญ่กว่า
ทำไมต้องเลือก GLI สำหรับงานออกแบบห้อง Generator
GLI มีทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบระบบไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับ generator room ด้วยประสบการณ์ในการติดตั้งให้กับโรงงาน Data Center และอาคารสำคัญต่างๆ เราใช้มาตรฐาน ISO, NFPA และ NEC อย่างครบถ้วน พร้อมบริการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบแบบครบวงจร ทีมงานของเราเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม และพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อหาโซลูชันที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับโครงการของคุณ